ว่านหางจระเข้




  

ว่านหางจระเข้ (Aloe)

เป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์มากชนิดหนึ่ง ทั้งในด้านการรักษาโรค ผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงเครื่องสำอาง ที่จำหน่ายทั้งในประเทศ และส่งออกต่างประเทศ
ว่านหางจระเข้ (aloe) แผงมาจากภาษายิว Allal แปลว่า ฝาดหรือขม เป็นพืชล้มลุกที่มีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศแอฟริกา อยู่ในตระกูลเดียวกันกับพลับพลึง หัวหอม และไม้ประดับหลายชนิด เป็นพืชอายุหลายปี
• วงศ์ :Liliaceae
• ชื่อวิทยาศาสตร์ Aloe barbadensis Miller
• ชื่อท้องถิ่นไทย :
ภาคกลาง– ว่านหางจระเข้ (ทั่วไป)
– ว่านตะเข้
ภาคเหนือ– ว่านไฟไหม้
ภาคใต้– ว่านหางเข้
• ชื่อท้องถิ่นประเทศอื่น :
– มาเลเซีย : ยาดาม
– จีน : ลูฮุย หรือ น่าเต็ก
– สเปน : ชาวิลลา
– สหรัฐอเมริกา และยุโรป : อโลเอ (aloe)


ในประเทศไทยพบมีการปลูกมากในจังหวัดปราจีนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และราชบุรี เนื่องจากมีการตั้งโรงงานแปรรูป และรับซื้อเพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์ว่านหางจระเข้ และเพื่อส่งออกในรูปของใบสดที่ส่งจำหน่ายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

ประประโยชน์

1. ใบนำมาปอกเปลือกให้เหลือเฉพาะเนื้อวุ้น ตัดเนื้อวุ้นเป็นก้อนๆสำหรับรับประทานสด
2. เนื้อวุ้นที่ตัดเป็นก้อนๆ นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้ ได้แก่ ว่านหางจระเข้เชื่อม น้ำว่านหางจระเข้ผสมวุ้น เป็นต้น
3. ส่วนของน้ำยาง ใช้เป็นส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อ ยาถ่ายอย่างแรง หรือ ที่เรียกว่า ยาดำ
4. ใช้เป็นยาสมุนไพรในการใช้ภายใน และภายนอก เช่น การใช้น้ำยางหรือการรับประทานสดเพื่อเป็นยาระบาย
5. ใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางเพื่อการบำรุงผิว และรักษาความชุ่มชื้นของผิว
6. น้ำเมือกใช้ทาผิวกาย ช่วยให้ผิวขาว ลดรอยมองคล้ำ เพราะสามารถกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกได้ง่ายขึ้น
7. ใช้เป็นส่วนผสมของยาต่างๆ อาทิ ยาต้านการอักเสบ ยาต้านเชื้อจุลินทรีย์ เป็นต้น
8. น้ำเมือกใช้สำหรับล้างจานชาม เพราะมีสารซาโปนินที่มีคุณสมบัติทำให้เกิดฟอง ช่วยให้คราบสกปรกหลุดออกได้ดี

ความคิดเห็น